ตอน ที่ผมอยู่ ม. 1 พ่อพามาเยี่ยมย่าที่กรุงเทพ และต้องค้างที่บ้านของย่า 3
คืน บ้านย่าเป็นบ้านหลังใหญ่ หลายห้องเนื่องจากย่ามีลูกหลายคน
แต่ตอนนี้แยกย้ายกันไปมีครอบครัวหมดแล้ว เหลือแต่อาผู้หญิงคนเดียว
จึงทำให้คนที่รู้จักที่ต่างจังหวัดฝากลูกหลานมาพักและมาเรียนอยู่ที่นี่กัน
หลายคน ในเย็นของวันนั้นทุกคนในบ้านก็ได้กินข้าวเย็นพร้อมกัน
และผมสังเกตเห็นว่าในบรรดาลูกหลานที่มาพักอยู่ด้วยนั้น
พี่พลและพี่พันสองพี่น้องฝาแฝดดูจะสะดุดตาผมที่สุด
เพราะหน้าตาจัดว่าดีใช้ได้เลยครับ พี่พลเรียนอยู่ที่จุฬา
ส่วนพี่พันเรียนอยู่หอการค้า ทั้งสองหน้าคล้าย ๆ กันตามประสาฝาแฝด
แต่บุคลิกต่างกันโดยสิ้นเชิง
เนื่องจากพี่พลที่เป็นเด็กวิศวะค่อนข้างห้าวไว้ผมยามประบ่าดูหน้าดุ ๆ เข้ม ๆ
ส่วนพี่พันไว้ผมสั้นดูสะอาด
สะอ้านและใจดีที่สำคัญเค้ายิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร
หลังจากกินข้าวเสร็จทุกคนแยกย้ายกันกลับห้อง บางคนก็ดูทีวีกันในห้องรับแขก
ส่วนผมนั่งคุยอยู่กับย่าและอาผู้หญิง เพราะพ่อออกไปเยี่ยมเพื่อนเก่า
ย่าบอกว่าให้เข้าห้องนอนก่อนพ่อได้เลย
เพราะพ่อออกไปทีไรกินเหล้ากลับดึกทุกที
แต่ใจผมตอนนั้นไปอยู่กับฝาแฝดทั้งสองคนนั้นแล้วโดยเฉพาะพี่พันที่น่ารักของ
ผม แต่ก็ไม่รู้จะทำไงเพราะเค้าเข้าห้องนอนกันไปแล้ว
ด้วยมารยาส่วนตัวที่สะสมมา 13 ปี
ประกอบกับอารมณ์ทางเพศที่มีอย่างล้นเหลือของวัยรุ่นอย่างผม
ทำให้ผมบอกย่าไปว่าผมไม่กล้านอนคนเดียวกลัวผี ให้ใครมานอนเป็นเพื่อนผมหน่อย
...อุย..เกือบเสียแผนครับ เพราะย่าเสนอตัวมานอนเป็นเพื่อนผม
ผมจึงรีบอ้างเหตุผลว่านอนดิ้นเอามาก ๆ
และขอเป็นพี่พลหรือพี่พันก็ได้เพราะเป็นผู้ชายด้วยกัน (เลวมั้ยล่ะครับ)
หลังจากย่าเดินไปเจรจากับพี่ทั้งสองก็ได้ความว่า
พี่ทั้งสองให้ผมไปนอนในห้องได้เลย
โอ้..พระเจ้า..ในที่สุดผมก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดพี่ทั้งสองคนนั้นแล้ว
ในห้องนอนของสองฝาแฝดมีเตียงเดี่ยวสองเตียงอยู่คนละมุมห้อง
แต่พี่ทั้งสองลากเอามาติดกันเพื่อให้ผมนอนด้วยได้
หลังจากเราถามไถ่และคุยเรื่องต่าง ๆ กันจนดึกก็รู้ว่าทั้งสองคนเรียนอยู่ปี 2
กันแล้ว และผมสังเกตว่าพี่พัน(คนที่ผมชอบ) ชอบเอามือมาลูบหัวผมบ่อย ๆ
ด้วยความเอ็นดูเวลาที่คุยกัน การนอนกับคนแปลกหน้าเป็นเรื่องที่ผมไม่ชินนัก
ดังนั้นการที่ได้นอนใกล้คนที่ผมรู้สึกชอบตั้ง 2 คน (ผมนอนกลางครับ)
มันก็เป็นอะไรที่วิเศษสุดแล้วสำหรับผมในตอนนั้น
หลังจากที่พวกเราปิดไฟนอนกันมาพักใหญ่สองพี่น้องก็ส่งเสียงกรนแบบเด็ก ๆ
(คล้ายหายใจแรง ๆ อ่ะครับ) กันทั้งสองคน
หน้าพี่พันหันมาทางผมใกล้มากจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ถูกที่แก้มทำให้ผมนอน
ไม่หลับด้วยความตื่นเต้น ขณะที่ผมพยายามข่มตาให้หลับอยู่นั้น
พี่พล(คนที่ห้าว ๆ )ก็พลิกตัวเอาขามาก่ายที่ตัวผม
จนเป้ากางเกงมาใกล้ที่มือผมมาก(ผมวางมือไว้ข้างลำตัว)
ขาของพี่พลที่เอามาก่ายส่วนที่เป็นหน้าแข้งก็ทับกับน้องชายผมพอดี...เอาละ
ครับทีนี้ไม่ต้องหลับกันแล้ว
ผมพยายามยกขาของพี่พลออกอย่างเบา ๆ
แต่มันก็เป็นไปโดยไม่ง่ายนัก
จึงได้แค่เพียงทำให้พี่เค้ากลับไปอยู่ในท่าตะแคงและหันตัวมาทางผม
แสงที่ลอดผ่านกระจกหน้าต่างมาสลัว ๆ
พอจะมองเห็นได้ว่าตอนนี้เป้ากางเกงของพี่เค้าตุงเอามาก ๆ
เหมือนจะดันกางเกงกีฬาขาสั้นผ้ายืดสีขาวตัวนั้นออกมาให้ได้
ตอนนี้เลือดในกายผมฉีดพล่านมือไม้สั่น สันชาตญาณมันสั่งมือผมให้ค่อย ๆ
เลื่อนมือไปสัมผัสเป้าพี่เค้าอย่างแผ่วเบา
ของพี่พลจัดว่าใหญ่มากสำหรับผมตอนนั้น
ผมลูบอยู่ซักพักก็เกิดความย่ามใจเริ่มทำการลูบแรงขึ้น
แต่พี่เค้าก็ยังคงนอนนิ่งอยู่ท่าเดิม ผมเลยตัดสินใจค่อย ๆ
เอาปลายนิ้วชี้ของมือซ้ายที่สั่นระริกค่อย ๆ
ไล่หาซอกที่พอเหมาะบนขอบเอวกางกางแล้วค่อย ๆ
แหย่กระแซะให้นิ้วเข้าไปในกางเกงเพื่อดึงให้เอวกางเกงยืดออกเป็นช่องทาง
เพื่อเอามือขวาล้วงผ่านเข้าไปได้โดยง่าย....ไม่ทันที่มือขวาของผมจะเข้าไป
ลึกมาก ปลายนิ้วของผมก็ไปชนเข้ากับส่วนหัวของน้องชายพี่พลเข้าอย่างจัง
เพราะด้วยความยาวใหญ่ทำให้มันโผล่พ้นออกมานอกกางเกงในและที่สำคัญหัวเปิด
ด้วยครับ ผมแทบจะอดใจรอไม่ไหวอยากจะจับดูให้ทั่วทั้งลำให้หนำใจเลย
ไม่ทันที่ผมจะทำการใดต่อพี่พลก็พลิกตัวอย่างแรงกลับไปนอนหงาย
ทำให้ผมตกใจดึงมือออกทันทีพร้อมกับปล่อยมือที่จับเอวกางเกงไว้ทำให้ยางยืด
ที่เอวกางเกงดีดตัวกลับไปที่เอวของพี่พลอย่างแรงเสียงดัง..เผี๊ยะ..
มาถึงตอนนี้ผมแทบจะอยากจมหายเข้าไปในที่นอนให้ได้เพราะคิดว่าพี่เค้าต้องลุก
ขึ้นมากระทืบผมแน่..แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ จากพี่พลเลย
ยังคงมีเสียงกรนเบา ๆ
เหมือนเดิมหลังจากที่ร่างกายพี่เค้าคุ้นเคยกับท่านอนท่าใหม่
..โอ้..ขวัญเอ๋ย..ขวัญมา..ผมเหงื่อท่วมตัว..คิดอย่างเดียวว่าไม่เอาอีกแล้ว
เกิดอะไรขึ้นผมจะสู้หน้าพี่เค้าได้ยังไง...ว่าแล้วก็ข่มตานอนต่อ..แต่จาก
สัมผัสเพียงเล็กน้อยเมื่อครู่ที่ผ่านมา
มันยังไหลผ่านเข้ามาในสมองอย่างไม่หยุดยั้ง
คล้ายกับหนังที่ฉายวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และตอนนี้น้องชายผมก็ขยายตัวแข็งเป็นหินอยู่ในกางเกงจนผมปวดไปทั้งลำ
แล้ว...ไม่ไหวแล้วถ้าขืนปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ผมแย่แน่เลย
จึงตัดสินใจลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการคลายเครียดให้ไอ้น้องชายหัวแข็งของ
ผม ขณะที่สาวชักเจ้าน้องชายและจิตนาการถึงเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่นั้น
ประตูห้องน้ำก็เปิดผัวะออกมาจนผมตกใจสะดุ้งสุดตัว พี่พลครับ
แกดันเปิดประตูเข้ามาพอดีเห็นภาพพร้อมหลักฐานอยู่เต็มมือของผมเลย
พอตั้งสติได้ผมก็รีบเก็บน้องชายเข้ากางเกงด้วยความอาย.....”อ้าว..แล้วนี่
ไม่มีใครบอกเหรอว่าห้องน้ำข่างล่างลูกบิดมันเสีย ต้องใส่กลอนด้วย...เดี๋ยว ๆ
นะขอพี่ฉี่แป๊บนึง..เดี๋ยวให้ต่อ..ไม่ต้องอายนะ....”
ว่าแล้วพี่พลก็ควักของพี่พลออกมาฉี่ต่อหน้าต่อตาผม..เอื้อก..ผมกลืนน้ำลาย
อย่างฝืดคอ..เจ้าน้องชายของพี่พลมันอ่อนตัวลงไม่มากขนาดยังใกล้เคียงกับบน
เตียงมาก ยืนฉี่ไป มือก็เกาขนที่หน้าท้องไปด้วยอย่างเป็นธรรมชาติ
ทำเหมือนไม่มีผมยืนอยู่ตรงนั้นเลย พอเสร็จพี่แกก็สะบัด ๆ 2 – 3
ครั้งทำเอาหัวใจผมหยุดเต้น
เพราะขนาดหัวที่เปิดและบานมันกลับขยายขึ้นมาอีกครั้ง
คล้ายกับว่าพี่แกกำลังมีอารมณ์ ...ไม่ทันที่ผมจะคิดเตลิดไปไกล
พี่เค้าก็หันมามองหน้าผมแล้วถามว่า..”จะเอาหนังสือเป่า..พี่มีหลายเล่มนะ
ทั้งไทยทั้งฝรั่ง..จะได้เสร็จเร็ว
ๆและจะได้ไปนอน..”เอ่อ..มะ..ไม่ต้องดีกว่าครับผมจะไปนอนแล้ว”ผมตอบพร้อมกับ
รีบผลุดออกจากห้องน้ำไป
แล้วรีบเดินไปที่บันไดเพื่อจะกลับไปห้องที่จะนอนกับพ่อ..”เดี๋ยวก่อน..จะไป
ไหนน่ะ”
เสียงพี่พลดังตามหลังมา..”ห้องอยู่ทางนี้..อะไรวะ..ไม่ทันไรหลงทางแล้ว
เหรอ”... ปัดโธ่..นี่พี่พลไม่เข้าใจรึไงนะ..มาเห็นตอนเราว่าวจะ ๆ
ขนาดนี้แล้วใครจะกล้าไปนอนด้วยเล่า.. “เอ้า..มาดิ..จะได้นอน” พี่พลย้ำ
จนผมต้องจำใจเดินตามเข้าห้อง
และขณะที่ขึ้นเตียงมีเสียงดังจนพี่พันตื่นขึ้นมา..”อ้าว..ไปไหนกันมาล่ะ
เนี่ย..ทำไมไม่นอน..ไอ้พลแกพาน้องไปไหนมาวะ”
พี่พันถาม..”ไม่ได้พาไปไหนข้าไปฉี่มาเจอน้องเค้าว่าวอยู่ในห้องน้ำ..สงสัย
ไม่รู้ว่าประตูมันเสีย..เนี่ยบอกให้ทำต่อให้เสร็จก็ไม่ทำ..ไม่รู้อายอะไร”
เอาละซิครับผมงี้แทบบ้า..ทำไมมาประจานกันอย่างงี้ละพี่..ธ่อ...
“แจ๊คอย่าไปถือสามันเลยไอ้บ้าพลเนี่ย..ใครเค้าจะกล้าอย่างมันล่ะนึกจะว่าว
ที่ไหนมันก็ทำ..อายใครเป็นซะเมื่อไหร่ ”
โอ..ไปกันใหญ่แล้วพี่พลทำไมกล้าบ้าบิ่นหยั่งงี้เนี่ย...”อิจฉาข้าล่ะซิที่
ของใหญ่ไม่เท่า..555 “
พี่พลหัวเราะด้วยความภูมิใจ...”แต่แกไม่ได้มีคู่แข็งแค่ข้าคนเดียวแล้วเว้ย
..เมื่อกี้ข้าเห็นของไอ้แจ็คนะเว้ย..เฮ้ย..เด็กอะไรของใหญ่เป็นบ้า...อ้าว
ตาย..ตาย..ตาย..เมื่อไหร่จะเลิกพูดเรื่องนี้วะเนี่ย....”นอน ๆ กันได้แล้ว”
พี่พันพูดตัดบทอย่างอารมณ์เสีย..ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง..แล้วความเงียบ
ก็ครอบงำทั้งห้องอีกครั้ง
ผมเริ่มได้ยินเสียงกรนของพี่พันแล้ว..แต่แปลกที่ไม่ได้ยินของพี่พล..ในท่า
นอนหงายผมเผยอเปลือกตาชำเลืองมองไปในความมืดสลัว..เห็นพี่พลนอนในท่าเอามือ
ล้วงเข้าไปในกางเกงตัวเอง..มันทำให้ใจผมสั่นอีกครั้ง..แสงที่ลอดจากกระจกบาน
เดิมส่องมาพอให้มองเห็นว่ามือของพี่พลมันไม่ได้อยู่นิ่ง...มันกำลังขยับขึ้น
ลงอย่างช้า ๆอยู่ข้างใน
ผมแกล้งพลิกตัวและหายใจดังขึ้นเพื่อให้รู้สึกว่าเป็นการขยับตัวระหว่างนอน
หลับ เพื่อหันไปมองได้อย่างถนัดตายิ่งขึ้น อารมณ์ตอนนี้ทั้งกล้าทั้งกลัว
ทั้งอยากเห็นปนกันครับ...จากนั้นมือของพี่พลที่ล้วงในกางเกงก็ถูกชักออก
เหมือนรู้ตัวว่าไม่ควรทำอะไรต่อเดี๋ยวผมตื่นมาเห็นเข้า
แต่ใครจะรู้ว่าแทนที่พี่เค้าจะหยุดกลับใช้สองมือรูดกางเกงลงไปกองที่หน้าขา
ปล่อยให้เจ้าน้องชายตั้งผงาดชี้กลางอากาศอย่างอิสระ..มาตอนนนี้หัวใจผมเต้น
แรงแถบจะทะลุออกมานอกหน้าอก..พี่พลเอามือกำที่ปลายส่วนหัวแล้วทำมือหลวม ๆ
ค่อย ๆ รูดลงมาจนถึงโคน พร้อมกับรูดกลับขึ้นไปในทันที
ผมมองไม่ถนัดนักแต่จากที่ผมเห็นในห้องน้ำเมื่อกี้
กับตอนนี้มันต่างกันค่อนข้างมาก ผมว่ามันราว ๆ 8
นิ้วได้..ตั้งแต่โตมาจนอายุ 13 ปี
ผมยังไม่เคยเห็นเจ้าสิ่งนี้ใหญ่ขนาดนี้เลย พี่พลเริ่มเล่งจังหวะให้ถี่ขึ้น
แต่ไม่เร็วจนเกินไปนัก มือซ้ายที่เหลือเริ่มลูบไปมาตามหน้าอก
มันเป็นภาพที่ทรมานผมมากเลยครับ
ผมอยากจะลุกขึ้นไปช่วยพี่เค้าเหลือเกิน..แต่ก็เป็นไปไม่ได้
พี่เค้าเริ่มเพิ่มความเร็วขึ้น
ตอนนี้พี่พลหายใจแรงขึ้นกว่าเดิมพร้อมกับผงกหัวมองไปที่น้องชายตัวเอง
ผมรู้สึกได้ถึงความสั่นเสทือนของเตียง
ตอนนี้ที่หัวของน้องชายผมมันเปียกไปหมดแล้วไม่รู้น้ำอะไรมันออกมาบ้าง
แต่รู้ตัวเองดีว่ามันไม่ใช่อาการน้ำแตกแน่เพราะผมยังไม่เสียวถึงขั้นสุด
ยอด..แต่คงเป็นเพราะอารมณ์มันถึงขีดสุดเพราะเจอเหตุการณ์ยั่วอารมณ์หลาย
ครั้งติดกันนั่นเอง ...แต่ที่แย่คือมันแข็งเป็นหินจนปวดไปหมดทั้งลำเลยครับ
อีกอึดใจเดียวผมได้ยินเสียงหายใจพี่พลแรงกว่าเดิมจนถือว่าดังได้เลย
พร้อมทั้งรูดแบบกระแทกแรงๆอีก 3 – 4
ครั้งน้ำพี่เค้าก็พุ่งลงบนหน้าท้องแต่ก็ไม่เยอะนัก
สงสัยจะว่าวทุกคืนแน่เลยครับ
จากนั้นพี่เค้าก็ถอดเสื้อออกมาเช็ดน้ำบนหน้าท้องแล้วทิ้งลงข้างเตียง
ดึงกางเกงขึ้นมาใส่แล้วก็นอนตะแคงหันหน้ามาที่ผม..”เอาดิ..ถึงตานาย
แล้ว”...... เฮ้ย...