ผมก็มีประสบการณ์จะมาเปิดให้เพื่อนๆอ่านครับ
ซึ่งเป็นเรื่องสมัยเข้าทำงานในบริษัทส่งออกนี้ ในตำแหน่งพนักงานบัญชี
ผมชื่อว่าเหน่ง อายุ 33 ปี ผิวขาว รูปร่างท้วมๆ ไปทางอวบหน่อย
จบปริญญาตรีจากมหาลัยเอกชนแถววิภาวดี-รังสิต
หลังจากจบการศึกษาออกมาก็เข้าทำงานมาหลายบริษัท มีชายมาจีบก็มาก
แต่เหน่งรู้ว่าพวกผู้ชายเหล่านี้หวังอะไรในตัวเหน่งแน่ถึงมาทำดี
เหน่งก็ยังระมัดระวังตัวมาตลอด ไม่กล้าไปไหนมาไหนกับใครตามลำพัง สองต่อสอง
ถ้าจะไปจะต้องมีเพื่อนไปเป็นกลุ่ม
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเหน่งได้ย้ายที่ทำงานใหม่มาอยู่ที่ท่าเรือคลองเตย
เหน่งกลับบ้านค่ำเกือบทุกวัน เพราะบ้านของผมอยู่บางแค
พอเลิกงานก็ต้องรีบขึ้นรถกลับบ้าน เดินทางอย่างนี้มาโดยตลอด
และระวังตัวตลอดจะไม่กลับบ้านดึก ถ้ากลับดึกก็จะนั่งแท๊กซีเข้าบ้าน
เส้นทางคลองเตยไปที่พัก เป็นถนนสายใหญ่ไม่มืด แต่ต้องต่อรถเมย์ถึง2
ต่อถึงจะถึงบ้านได้
และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่จะทำให้ผมต้องติดใจจนถึงทุกวันนี้เพราะได้เด
รฉานจับกังที่ท่าเรือคลองเตย ที่พวกมันทำให้ผมต้องมีมลทินในวันสิ้นเดือน
เป็นวันเงินเดือนออกของบริษัทผม
เพื่อนๆคนอื่นก็มีนัดหมายกับแฟนๆและครอบครัวส่วนที่ยังไม่มีครอบครัวก็จะไป
หาร้านอาหารดื่มกินกันเป็นประจำ
ส่วนตัวผมนั้นต้องมานั่งทำงานปิดบัญชีสิ้นปีอยู่คนเดียวเพราะทำงานไม่ทัน
เพื่อนที่ทำงานบัญชีอีกคนก็ลาคลอด งานทั้งหมดก็หนักอยู่ที่ผมคนเดียว
วันนั้นผมเร่งทำงานในช่วงกลางวันอย่างเร่งรีบ
โดยที่ไม่ไปพักทานข้าวกลางวันข้างนอก
บอกเพื่อนว่าต้องรับปิดบัญชีให้หมดเพื่อจะได้ไม่กลับบ้านดึกผมนั่งทำงานจน
ลืมเวลาไปเลยว่ากี่โมงแล้ว
พอทำงานเสร็จรีบเก็บข้าวของและหันไปดูนาฬิกาเป็นเวลา 3 ทุ่ม
ผมกำลังจะเดินออกจากบริษัท ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ผมก็มองหายามที่เฝ้าบริษัท
แต่ก็ไม่เห็น ผมคิดว่ายามคงจะไปกินเหล้ากับเพื่อนยามแถวโกดังท่าเรือแน่
ผมยังพูดลอยๆไปอีกว่า ถ้าเกิดขโมยเข้ามาลักทรัพย์แล้วจะทำอย่างไร
ยิ่งในบริษัทมีของมีค่าหลายอย่างทีทั้งคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ 3 เครื่อง
ผมก็นั่งรอให้ฝนหยุดตก
ยิ่งนั่งรอนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ฝนก็ยังตกอยู่และยิ่งแรงขึ้น
และอยู่ดีดีผมก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่าลงมาหลังตึกถัดไป จนทำให้ไฟฟ้าดับทั้งตึก
ผมคิดว่าเดี๋ยวก็ติด เพราะเคยเป็นอย่างนี้ประจำ
แต่ครั้งนี้ไม่เป็นอย่างนั้น ผมกลัวก็กลัว จะกลับบ้านก็กลับไม่ได้ฝนตก
ผมนั่งอยู่ในห้องแอร์ พอไฟดับอากาศในห้องก็อบอ้าว ร้อนหายใจไม่ออก
ผมจึงเดินไปเปิดหน้าต่างออก 1 บ้าน ทางด้านหลังบริษัท
เป็นห้องที่ผมทำงานอยู่ และผมก็มองออกไปที่รั้ว เห็นเงาคนอยู่ที่รั้ว
ผมก็นึกว่ายามบริษัท จึงตะโกนถามว่านั้นยามใช่ไหม
เสียงฝนก็ดัง ผมได้ยินเสียงตอบกลับมาแว่วว่าใช่ แต่เสียงแปลกๆ
ผมคิดว่าคงกินเหล้ามากจนเสียงแหบ
สักครู่คนที่ผมคิดว่าเป็นยามก็เดินเข้ามาถึงตัวผม เมื่อผมมองไปที่รูปร่าง
หน้าตาที่ไม่คุ้นหน้า ผมถึงกับตกใจแทบเป็นลม
พวกมันก็คือจับกังที่ทำงานอยู่ที่ท่าเรือนี้เอง
ซึ่งทุกครั้งที่ผมเดินผ่านก็จะถูกพวกมันแซวอยู่เป็นประจำ
และผมก็ยังด่าพวกมันอีก มาในคืนนี้พวกมันทั้ง2คน ก็มากันครบ
ผมมิอาจเดาได้ว่าพวกมันจะเข้ามาทำอะไร แต่ที่แน่ๆ ถ้าคืนนี้ผมหนีมันไม่พ้น
ก็ต้องโดนมันรุมอัดถั่วดำแน่ๆ
พอไอ้คนที่ชื่อแดงมันกระชากเสื้อผมจนล้มกลิ้งแล้ว
มันก็ด่าว่าไอ้สัตว์มึงจะหนีกูไปไหนคืนนี้มึงต้องเป็นเมียกูเสียดีๆ
มิอย่างนั้นตาย มันยิ่งพูดอย่างนี้ผมยิ่งกลัวมากขึ้น
ผมร้องดังเท่าไหร่ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงฉัน
พวกมันลากตัวผมเข้าไปในห้องทำงาน
พวกมันช่วยกันกวาดกองเอกสารบนโต๊ะลงกับพื้น และอุ้มตัวผม
แล้วไอ้แดงมันก็รูดซิบกางเกงสีดำของผมออกและดึงลงมากับพื้นห้อง
แต่ผมมองไม่เห็นเพื่อนมันอีกคนว่ากำลังทำอะไรอยู่
รู้แต่ว่าไอ้แดงมันกำลังขยำนมผมอย่างแรงจนผมร้องออกมาจนแทบไม่มีเสียงและ
ร้องขอให้ปล่อยผมไป
ผมก็พยายามดิ้นหนีมืออันสากดำของไอ้แดงให้พ้น และใช้ท้าวถีบมัน
ได้แดงมันตะคอกฉผมและตบเข้าที่หน้าจนเจ็บ แล้วมันก็กระชากเสื้อ
มันก็เอาขึ้นมาดมและยังกระซิบข้างหูผมว่า ขนาดเปียกอย่างนี้ยังหอมอยู่เลย
แล้วหม้อต้มถั่วของมึงจะหอมขนาดไหน
ยังพูดไม่ทันขาดคำมันก็ดึงกางกางในตัวจิ๋วของผมติดมือมันขึ้นมาดมและเอามา
ยัดใส่ปากผม สักพักผมไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรที่อยู่ในปากผม
มีกลิ่นเหม็นคาวมากและเค็ม ดิฉันดมแล้วแทบอ๊วก
ไอ้แดงมันบอกว่าของมึงเองไม่ดม อย่างนั้นมึงอมของกูแล้วกัน
แล้วอยู่ดีๆไฟฟ้าก็สว่างขึ้น จนทำให้ผมตกใจยิ่งกว่าเดิม
เมื่อสิ่งที่ฉันเห็นมันเป็นไอ้แดงยืนเปลือยอยู่ที่ขอบโต๊ะ
แต่ไม่เห็นเพื่อนมันอีกคน แล้วไอ้แดงมันก็เข้ามาเลียตัวผม
จนผมรู้สึกขยะแขยง ผมก็พยายามดิ้นให้พ้นมันให้ได้แต่ก็ไม่สำเร็จ
แถมมันยังโมโห และต่อยเข้าที่ท้องน้อยอย่างแรงจนผมจุก หมดแรงต่อสู้
มันจึงจับขาผมถ่างออก แล้วก็หัวเราะ แล้วพูดว่า มาเป็นเมียพีแดงเสียเถอะ
แล้วมันก็ยัดท่อนเนื้อสีดำ ขนาดเท่ากับกระบอกไฟฉาย
ผมร้องบอกว่าเจ็บให้เอาออกและข่วนหลังมันจนหนังติดเล็บ
แต่มันก็ยังไม่หยุดสงสารผม มันยิ่งกระแทกอย่างไม่ปราณีเข้าไปอีก
จนมิดเข้าไปต้องเจ็บปวดเพราะไอ้สัตว์ป่าแดงนี้เอง
พอมันเริ่มชักเข้าชักชักออกจนน้ำของมันแตกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
และมีเลือดไหลออกมากับน้ำอสุจิด้วย ยิ่งทำให้มันหึกเหิมใหญ่
แล้วมันก็พ่นน้ำรักใส่ผมจนล้นออกมาเปื้อนโต๊ะทำงาน
มันก็ชักท่อนเนื้ออกมาถูที่หน้าอกผมจนแฉะไปหมด
แล้วมันก็เรียกเพื่อนมันว่าหาเจอะหรือยัง
เพื่อนมันก็เดินออกมาจากห้องผู้จัดการพร้อมกับขวดน้ำอดลมขวดเล็ก1ขวด
และเดินแก้ผ้ามายังผม
และผมเหลือบไปมองท่อนเนื้อของมันที่มีสีดำมันเหมือนกับไอ้แดงแต่ใหญ่กว่าและ
รอบท่อนเนื่อยังเม็ดตุ่มๆขึ้นรอบท่อนเนื้อของมัน ผมคิดว่ามันเป็นโรคแน่ๆ
ผมจึงบอกให้มันใส่ถุงยางเถอะเดียวผมติดโรค
โดนพวกมันข่มขืนแล้วยังมาติดโรคอีกก็ตายเสียดีกว่า ผมบอกพวกมันอย่างนั้น
มันก็บอกว่ากูไม่ได้เป็นโรคหลอก มันคือมุก
กูอุสาห์ฝั่งไว้ตั้งนานแล้วยังไม่เคยใช้กับใครเลย
มึงเป็นคนแรกที่ลิ้มลองของกู ไอ้แดงมันก็บอกกับเพื่อนมันว่า
มันจะรับไหวหรือขนาดมึงไปเที่ยวกระหรี่ ขนาดกระหรี่โคกใหญ่ๆ
มันยังร้องลั่นห้องเลย แล้วไอ้นี่มันยังใหม่
พึงโดนกูไปทีเดียวเดี๋ยวตูดมันก็พังหมดหลอก เพื่อนของไอ้แดงมันไม่สนใจอะไร
มันก็เอาขวดน้ำอัดลมใบนั้นดันเข้ามาในรูของผม
แต่มันก็เข้าง่ายเพราะเมื่อกี้โดนของไอ้แดงนำร่องแล้วยังไม่หุบเลย
แล้วมันก็ชักเข้าชักออกอย่างเร็วจนผมเสียวไปหมดแล้ว
จึงร้องบอกมันว่าอย่าแกล้งผมเลยปล่อยผมไปเถอะ
มันก็บอกว่าเดี๋ยวกูปล่อยแน่ขอพวกกูสนุกกันอีกคนละ2รอบ ผมถึงกับตกใจ
นี้ขนาดของมันยังไม่เข้าเลยมันจะเอาอีกหลายรอบ
แล้วมันก็ดึงขวดน้ำอัดลมออกและฉีกขาผมออกจนกว้างไม่เหลืออะไรอีกเลยที่เคย
สงวนมาโดยตลอดระวังตัวมาตลอด
เพื่อนไอ้แดงมันก็จับท่อนเนื้อของมันดันเข้าตูดผมยังไม่เข้าไปข้างใน
แค่จ่อไว้ที่ปากถ้ำ ผมก็กลัวจนตัวเกร็งจนไม่อยากจะคิดอะไร
แล้วมันก็ดันท่อนเนื้อที่ฝังมุกไม่รู้กี่เม็ดเข้ารูผมทีเดียวมิดด้ามจนสุด
แบบไม่ปราณี ผมถึงกับตะโกนร้องลั่น ว่าแหกแล้วตูดกู เอาออกๆๆๆๆๆๆๆ
มันก็ได้ใจชักเข้าชักออกอย่างเมามัน
เม็ดมุกที่มันฝังไว้มันครูดรูตูดอย่างแสบๆคันจนผมทนไม่ไหวขมิบตูดโดยไม่รู้
ตัวว่ากำลังมีอารมณ์กับมันไปด้วย มันเอาอย่างนี้จนน้ำแตกแต่ของมันยังไม่ออก
ตูดผมก็ทั้งร้อนทั้งเจ็บ
เกือบ10
นาทีมันก็ชักท่อนเนื้อของมันออกมาที่หน้าผมและพ่นพิษใส่หน้าผมมากมาย
หลังจากนั้นผมก็ไม่มีแรงที่จะสู้มัน
พวกมันก็ผลัดกับหมุนเวียนอยู่กับตูดผมอยู่เกือบเช้าและมันจึงปล่อยผม
มันขู่ผมว่าอย่าเอาเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจหรือใครๆรู้
ถ้าแจ้งมันจะกลับมาฆ่าผม
หลังจากวันนั้นมาผมก็ไม่กล้าไปทำงานที่นั้นอีกและขอลาออกไปอยู่ต่างจังหวัด